คำถามท้ายบทที่ 3

1. ข้อใดไม่ใช่ทรัพยากรสารสนเทศภาครัฐ

ก. ทรัพยากรสารสนเทศจาก 20 กระทรวง
ข. ทรัพยากรสารสนเทศจากองค์การบริหารส่วนตำบล
ค. ทรัพยากรสารสนเทศเกี่ยวกับกิจการที่รัฐบาลเป็นเจ้าของกิจการ   
ง. ทรัพยากรสารสนเทศที่เกี่ยวกับ องค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ

2. ทรัพยากรสารสนเทศที่จำเป็นสำหรับสถาบันสารสนเทศคือข้อใด

ก. ทรัพยากรสารสนเทศที่ให้ความรู้พื้นฐานที่สำคัญของสาขาวิชาต่างๆ ซึ่งเป็นที่สนใจของผู้ใช้ในสถาบันนั้น ๆ
ข. ทรัพยากรสารสนเทศที่ใหม่และทันสมัยอยู่เสมอ
ค. ทรัพยากรสารสนเทศที่ผลิตโดยสถาบันสารสนเทศนั้น ๆ
ง. ทรัพยากรสารสนเทศที่นำมาจากองค์กรหรือสถาบันที่มีชื่อเสียง

3. การจัดซื้อแบบ Standing order หมายถึงอะไร

ก. ข้อตกลงให้สำนักพิมพ์หรือตัวแทนจำหน่ายนำหนังสือใหม่มานำเสนอต่อสถาบันสารสนเทศ
ข. ข้อตกลงกับสำนักพิมพ์ให้ติดตามทรัพยากรสารสนเทศที่ต้องการเฉพาะสาขาวิชาใดสาขาวิชาหนึ่ง
ค. ข้อตกลงที่จะซื้อหนังสือทุกชื่อเรื่องในชุดหรือหนังสือรายปีที่สำนักพิมพ์พิมพ์ออกมา
ง. การสั่งซื้อสิ่งพิมพ์ต่อเนื่องหรือวารสาร โดยตกลงให้สำนักพิมพ์ต่ออายุสมาชิกให้
          เมื่ออายุสมาชิกหมดลงโดยไม่ต้องถามห้องสมุด

4. ขั้นตอนการเตรียมการจัดซื้อควรทำอย่างไร

ก. การเตรียมบัตรสั่งซื้อและแบบรายการสั่งซื้อ    
ข. การรวบรวมรายการและตรวจสอบรายการที่จะสั่งซื้อ 
ค. การพิจารณาแหล่งที่จะสั่งซื้อว่าจะเป็นแหล่งจากภายนอกหรือภายในประเทศ
ง. การเลือกวิธีการจัดซื้อทั้ง 5 วิธี ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ

5. ข้อใดมิใช่วิธีดำเนินการของขั้นตอนการตรวจรับ

ก. ตรวจกล่องเพื่อค้นหาใบส่งของ
ข. ตรวจหนังสือที่ส่งมากับใบส่งของและบัตรสั่งซื้อ
ค. ตรวจสอบความรู้ของบรรณารักษ์ที่มีต่อหนังสือที่สั่งซื้อ
ง. ตรวจสภาพของหนังสือให้สมบูรณ์ ไม่ชำรุด

6. รายละเอียดอะไรบ้างของทรัพยากรสารสนเทศที่ปรากฏในการลงทะเบียนทรัพยากรสารสนเทศใหม่

ก. ข้อมูลทางบรรณานุกรมของหนังสือ 
ข. รายละเอียดเกี่ยวกับราคา
ค. รายละเอียดเกี่ยวกับตัวแทนที่สั่งซื้อ
ง. ถูกทุกข้อ

7. การแบ่งเงินงบประมาณสำหรับการซื้อทรัพยากรสารสนเทศประเภทต่างๆ ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอะไรบ้าง

ก. วัตถุประสงค์และนโยบายของสถาบันสารสนเทศ  
ข. มาตรฐานของห้องสมุดแต่ละประเภท
ค. จำนวนงบประมาณที่ได้รับ
ง. ถูกทุกข้อ

8. การบอกรับวารสารภายในประเทศนิยมใช้วิธีการบอกรับเป็นสมาชิกวิธีใด

ก. การบอกรับโดยตรงกับผู้จัดพิมพ์หรือผู้ผลิตวารสาร    
ข. การบอกรับผ่านตัวแทนจำหน่าย   
ค. การสมัครเป็นสมาชิกสมาคม
ง. การจัดซื้อโดยผ่านร้านค้าหรือสายส่ง

9. ทรัพยากรสารสนเทศประเภทใดที่ควรนำมาแลกเปลี่ยน

ก. สิ่งพิมพ์ภาคเหนือ สิ่งพิมพ์รัฐบาล 
ข. หนังสือหายากที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน  
ค. รายงานประจำปี วิทยานิพนธ์ วารสารฉบับซ้ำ
ง. หนังสือพิมพ์ประจำวัน

10. หน้าที่สำคัญประการหนึ่งของบรรณารักษ์ในการจัดหาวารสาร ไม่ว่าจะเป็นการบอกรับโดยตรงหรือรับผ่านตัวแทน
      ซึ่งนำไปสู่การทวงถามวารสารที่ไม่ได้รับคืออะไร

ก. การตรวจสอบทะเบียนวารสาร
ข. สอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้
ค. ทดสอบเครื่องมือช่วยค้นบทความในวารสาร
ง. จัดหาตัวแทนจำหน่ายที่เหมาะสมกับนโยบายของสถาบันสารสนเทศ